ถามกันเข้ามาบ่อย เรื่องการคอมไพล์จาวา เป็น *.jar โดยใช้ EClip

ถามกันเข้ามาเยอะๆ ผมก็เลยเอามาเขียนเผื่อจะเป็นประโยชน์กับอีกหลายๆคนที่ยังไม่เคยคอมไพล์จาวาให้เป็นไฟล์ *.jar

ก่อนอื่นก็ต้องอธิบายกันก่อนเกี่ยวกับการคอมไพล์ของ EClip เมื่อเราสั่งคอมไพล์ผ่าน EClip โปรแกรมจะเอาทุกคลาสที่อยู่ในโปรเจค(Project)เดียวกัน รวมไว้ในไฟล์ *.jar ดังนั้นควรดูให้ดีว่าคลาสที่จะคอมไพล์นั้นวิอันไหนที่จำเป็นต้องใช้ในการรันจริงๆ วิธีแก้ไขก็คือเราจะต้องสร้างโปรเจคขึ้นมาใหม่ (คลิ๊กขวาแล้ว News Project ) เสร็จแล้วก็ Import (คลิ๊กขวา ตรงไอคอนโปรเจกต์) แล้ว ทำการ Import file seytem ซึ่งก็คือไฟล์ *.java ที่เราเขียนไว้นั่นแหละ แล้วก็เอาเฉพาะคลาสที่จำเป็นเข้ามา หรือเอาเฉพาะแพกเกจที่ต้องใช้เข้ามาในโปรเจกต์ใหม่นี้



สร้างโปรเจกใหม่ขึ้นมาก่อน



อันนี้ตั้งชื่อโปรเจค



เมื่อตั้งชื่อเสร็จแล้วก็ต้องกด Finish เป็นอันสร้างโปรเจคใหม่เรียบร้อยแล้วครับท่าน




ทีนี้เราก็ต้องทำการ Import file เข้ามาก่อน ดูรูปเลยละกัน




เลือกชนิดไฟล์เป็น File Seytem นะจ๊ะ




จากนั้นก็เลือกเอาไฟล์ที่เราต้องการที่จะยัดเข้าไปในไฟล์ *.jar เอาเฉพาะไฟล์ที่ใช้งานจริงๆนะครับ




เป็นอันว่าอิมพอร์ตเข้ามาเรียบร้อยแล้ว

ทีนี้เราก็จะมาดูการ สร้างไฟล์ *.jar กัน




คลิ๊กที่ไฟล์ คลาสที่เป็น คลาสสำหรับเรียกใช้งาน คลิ๊กขวานะ เสร็จแล้วก็ทำคล้ายๆกับอิมพอร์ตเข้ามา แต่ทีนี้เรามาเปลี่ยนเป็น เอกพอร์ต แทน




เลือกชนิดไฟล์ที่จะเอกพอร์ตเป็น Runnable JAR file สำหรับเอาไปรันที่ไหนก็ได้ที่จาวารันไทม์





ตรงนี้สำคัญเพราะจะต้องเลือกไฟล์ให้ถูกต้อง คือเลือกคลาสที่เป็นคลาสที่จะใช้งาน คือคลาสนี้เรียกใช้คลาสอื่นๆได้นั่นเอง




พอเลือกคลาสใหญ่สุดที่จะเอกพอร์ตแล้ว ทีนี้ก็ตั้งชื่อไฟล์ *.jar ของเราได้เลย



เป็นอันว่าสำเร็จเสร็จสิ้น การสร้างไฟล์ *.jar

วิธีการติดตั้งจาวาในคอมพิวเตอร์ของคุณและวิธีการคอมไพล์และการรันโปรแกรมจาวา

How to install Java SDK on your computer and how to compile and run a Java program
วิธีการติดตั้งจาวาในคอมพิวเตอร์ของคุณและวิธีการคอมไพล์และการรันโปรแกรมจาวา


เนื่องจากวันนี้เราจะมาลง Java SDK กันนะครับ มันก็เอาไว้สำหรับคอมไฟล์จาวา และ รันจาวาไง ใครที่อยากเขียนโปรแกรมด้วยภาษาจาวาเป็นก็ลองมาเริ่มตั้นด้วยกันเลยครับ
ถ้าหากเครื่องของเราไม่มีโปรแกรมที่ใช้คอมไพล์และรันจาวาเราต้องทำการดาวห์โหลดโปรแกรมมาติดตั้งเสียก่อนจึงจะสามารถทำงานได้ โดยมีขั้นตอนดังต่อไปนี้

1.เข้าไปที่เว็บไซต์ http://jaja.sun.com เพื่อดาวห์โหลดโปรแกรม


2.เมื่อเข้าสู่เว็บไซต์แล้วให้เข้าไปที่เมนู Downloads/Java SE


3.เลือกเวอร์ชันที่ต้องการ แนะนำให้เป็นเวอร์ชันล่าสุดเพราะมีการปรับปรุงจากเวอร์ชันที่ผ่านมา หรือใครชอบเวอร์ชันไหนก็เลือกได้ตามต้องการ


4.เลือก Platform ที่เราใช้เช่น XP , Linux เป็นต้น จากนั้นเลือกเป็น Multi-language เพื่อให้ใช้ได้หลายภาษา
และคลิ๊กเลือก เพื่อยอมรับข้อตกลงของ Java จากนั้นคลิ๊ก Continue เพื่อทำขั้นตอนต่อไป


5.คลิ๊กที่ลิงค์ไฟล์เพื่อดาวห์โหลดโปรแกรม


6.รอให้ดาวห์โหลดโปรแกรมจนเสร็จสิ้น


7. ตกลงเพื่อยืนยันการติดตั้ง Java Program และทำตามขั้นตอนไปจนติดตั้งโปรแกรมเสร็จสิ้น

8. คลิ๊กเลือก Finish เสร็จสิ้นการติดตั้งโปรแกรม Java


9. เมื่อติดตั้งเสร็จแล้ว เราจะต้องทำการตั้งค่าให้กับโปรแกรมเพื่อที่จะสามารถ คอมไพล์และรันโปรแกรมได้ วิธีการตั้งค่าสำหรับwindow XP ก็คือ ให้คลิ๊กขวาที่
My computer /Adnavced /Environment แล้วเลือกที่ New เพื่อเพิ่มค่า Variable


10. จากนั้นตั้งค่า Varible name เป็น Path และใส่ค่า Variable value โดยนำค่านี้มาจากไดเร็คทอรี่ของเครื่องเราโดยเข้าไปที่C:\Program Files\Java\JDK..\bin
(บางเครื่องหรือบางเวอร์ชันอาจไม่ตรงกัน)คัดลอกค่าที่ได้มาใส่ในค่า
Variable value

กด OK เพื่อยืนยัน และเสร็จสิ้นการตั้งค่า




11.ทดสอบการติดตั้งว่าสำเร็จแล้วหรือยังโดยไปที่เมนู Start > Run แล้วพิมพ์ cmd
แล้วกดปุ่ม Enter



12.พิมพ์ Javac เพื่อทดสอบ Java compile



13. ถ้าเราติดตั้งสำเร็จ โปรแกรมจะแสดงรายละเอียด ของ Javac ที่เราได้ทำการติดตั้งไป
แสดงว่าเราสามารถรัน และ คอมไพล์โปรแกรม Java ได้แล้ว




14.ทดสอบเขียนโปรแกรมเพื่อรัน โปรแกรมแรกชื่อ “Hello World” เราสามารถเขียนโปรแกรมด้วยโปรแกรมเท็กทั่วไปเช่น Notepad เมื่อเราพิมพ์โปรแกรม “Hello World”
เสร็จแล้ว ให้เซฟไว้ในโฟลเดอร์โปรแกรมของเรา ในที่นี้จะยกตัวอย่างโดยเซฟไว้ที่ ไดว์ D:\Myprogram\helloworld.java
โดยเมื่อเราเขียนโปรแกรมเสร็จให้พิมพ์นามสกุลไฟล์เป็น .java ด้วย

ดาวห์โหลดไฟล์จาก 4shared

สวัสดีครับ วันนี้เรามาแนะนำเว็บไซต์โหลดไฟล์ ที่สามารถโหลดได้หลายประเภท ไม่ว่าเพลง วิดีโอ โปรแกรม รูปภาพ หรือเกมส์ อะไรทั้งหลายนั่นแหละครับ แต่สำคัญนะครับแนะนำให้โหลดเฉพาะไฟล์ที่ถูกลิขสิทธิ์นะครับ เพราะผมไม่สนับสนุนให้ละเมือลิขสิทธิ์นะครับ
เริ่มต้นสำหรับการดาวห์โหลด ก่อนอื่นเราต้องเข้าไปที่เว็บไซต์กันก่อน นั่นก็คือ
http://www.4shared.com/ นะครับจะปรากฏหน้าตาดังนี้แหละ





จากนั้นก็กรอกคีย์เวิดหรือสิ่งที่เราต้องการค้นหาได้เลยครับ เช่นจะใส่ชื่อเพลง จะโหลดเกมส์ก็ค้นหาด้วยคีย์เวิดว่า
Game pc ประมาณนี้แหละครับ เมื่อเราพิมพ์เสร็จแล้วก็กดที่ Serch ที่ปุ่มข้างๆนะครับ
ก็จะเห็นไฟล์ต่างๆที่เกี่ยวข้องกับคำที่เราค้นขึ้นมาดังนี้ครับ



หรือเมื่อเราจะหาไฟล์ในหน้าต่อๆไปก็ทำได้ที่เมนูด้านล่างเพื่อไปหน้าถัดไปครับ
เมื่อเราทำการคลิ๊กเลือกไฟล์ที่เราจะโหลดก็กดที่ตรงลิงค์ ตรงลูกศรนั่นแหละครับ





ก็จะเห็นหน้าตาอย่างงี้ครับ ก็ให้เรากด Donwload Now เพื่อดาวห์โหลด





สำคัญต้องรอให้เวลาตรงนี้นับถอยหลังไปจนเสร็จ จากนั้นจะมีลิงค์มาแทนที่ดังรูปข้างล่างนี้

เมื่อเราคลิ๊กที่ลิงค์ตรงหัวลูกศรนั้น ก็จะสามารถดาวห์โหลดไฟล์ได้เลยครับ ก็ให้ Save ไปไว้ที่เครื่องของเราก่อน






บางครั้งไฟล์ที่ Save มาอาจจะเป็นไฟล์ .rar ,.zip เราต้องแตกไฟล์ออกมาก่อนถึงจะใช้ไฟล์ได้โดยทำดังนี้
แต่หากไม่ใช่ไฟล์ดังกล่าว อาจเป็น .exe (.rar,.zip,.exe คือนามสกุลไฟล์ ดูที่ท้ายสุดของชื่อไฟล์
เมือ่เรา Save ไฟล์มาแล้ว มีรูปร่างหน้าตาไฟล์ที่เป็นรูปภาพหรือโฟลเดอร์อะไรก็แล้วแต่ ลองดับเบิ้ลคลิ๊กที่ไฟล์ดู
ถ้าเปิดได้แสดงว่าเครื่องเรา สามารถแตกไฟล์นั้นได้ ส่วนใหญืจะทำได้นะครับ
ให้เรากดที่ตรงเมนูดังภาพด่านล่างแล้วกด Ok ก็จะเห็นไฟล์เป็นโฟลเดอร์อยู่ในหน้าเดียวกันกับตำแหน่งไฟล์ที่โหลดมา

ที่นี้ก็มองหาไฟล์ที่ใช้เล่นเกมส์หรือไฟล์เพลงที่เราโหลดมาได้เลยครับ

วิศวะคอมพิวเตอร์ กับ วิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์

สวัสดีครับ ทุกท่านที่แวะมาในเว็บบล็อกของผม วันนี้จะมากล่าวถึงเรื่อง วิศวะกรคอมพิวเตอร์นะครับ
มีน้องๆหลายคนถามผ่านมาเยอะมากๆ ว่า"พี่ครับๆวิศวะคอมกับ วิทยาศาสตร์คอมเนี๊ยะมันต่างกันยังไงครับ"
ผมก็ต้องตอบน้องๆไปอยู่หลายรอบเหมือนกัน หลายคนพอได้ยินชื่อคณะสองชื่อที่กล่าวมา คือวิศวะคอมพิวเตอร์กับวิทยาศาสตร์คอมพิวเตอร์นั่นแหละ แล้วมักจะเข้าใจว่าเอ๊ะ มันเรียนเหมือนกันใช่มั๊ย ไม่ต่างกันหรอ อะไรประมาณนั้น
ก็เลยขอตอบตรงนี้เลยละกันนะครับว่า วิศวะคอมพิวเตอร์กับวิทยาศาสตร์คอมพิวเจอร์นั้นมันมีข้อแตกต่างกันอยู่
ถ้าจะดูตามความหมายแล้ว "วิศวะ" นั้นหมายความว่าผู้สร้าง สัญลักษณ์คือ พระวิษณุ เพราะฉะนั้นวิศวะคอมพิวเตอร์จึงมักจะเน้นการสร้าง มากกว่านั่นเองครับ สร้างในที่นี้ก็คือสร้างอุปกรณ์ สร้างระบบ แอปพลิเคชัน เครือข่าย ฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์ หรืออะไรก็แล้วแต่ ล้วนถูกออกแบบมาโดย วิศวะคอมพิวเตอร์นั่นเอง ส่วนวิทยาศาสตร์คอม หรือหลายคนมักเรียกผิดว่า วิทยาการคอมนั่นแหละ จะเน้นไปทางศึกษาการทำงานเสียส่วนใหญ่ และเรียนเน้นไปทางซอฟต์แวร์มากกว่า ดังนั้นคนที่เรียนวิทยาศาสตร์คอมจะเก่งในการ ออกแบบซอฟต์แวร์ เพราะจะเข้าใจความต้องการของผู้ใช้มากกว่า ว่าผู้ใช้นั้นต้องการใช้โปรแกรมอะไร ในรูปแบบไหน ประมาณนั้น ดังนั้นก็คงจะหายสงสัยกันขึ้นมาบ้างแล้วนะครับว่า มันต่างกันยังไง นั่นแหละที่กล่าวมาทั้งหมดทั้งหลายก็คือข้อแตกต่าง อาจจะอธิบายไม่ครอบคลุมในส่วนที่คุณต้องการรู้ แต่ก็คงช่วยได้บ้างใช่ไหมครับ
ดังนั้นคนที่ชอบควบคุมคอมพิวเตอร์ให้ทำงาน ออกแบบระบบเครือข่าย ฮาร์ดแวร์ ซอฟต์แวร์ หรือคิดค้นอุปกรณ์อะไรใหม่ๆ และชอบเขียนโปรแกรมที่ใช้ควบคุมอะไรก็แล้วแต่ที่เป็นระบบคอมพิวเตอร์ ให้ทำงานได้ดั่งใจเรา หรือจะเป็นซอฟต์แวร์ก็ยังสามารถทำได้ ง่ายๆก็คือวิศวะสามารถเป็นผู้ควบคุมได้นั่นเอง ใครที่ชอบอะไรท้าทายๆสลับซับซ้อนประมาณนี้ก็เลือกเรียนวิศวะคอมพิวเตอร์ได้เลย
ส่วนใครที่ชอบเน้นไปทางการสร้างเกมส์ สร้างโปรแกรม เอนิเมชั่น เอาง่ายๆคือประเภทซอฟต์แวร์นั่นแหละ ก็ลองไปศึกษา วิทยาศาสตร์คอมดู และที่มหาวิทยาลัยเค๊าก็มีเปิดสอนพวกเอนิเมชันกราฟฟิกแล้วนะรู้ศึกจะเป็นคณะศิลปกรรมนี่แหละ ลองๆ ไปศึกษาเพิ่มเติมดู จะได้เลือกคณะที่เราชอบที่เราถนัดจริงๆ จะได้มีต้องมานั่งเสียใจภายหลัง หวังว่าบทความนี้คงจะมีประโยชน์กับน้องๆ ทุกคน หรือใครก็แล้วแต่ที่มีคำถามว่าวิศวะคอมฯกับวิทยาศาสตร์คอม มันต่างกันยังไง ผมเองก็ขอให้ทุกคนประสบความสำเร็จดั่งที่ใจใฝ่ฝันเอาไว้นะครับ